นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)

บริษัท เน็กซ์โพสท์ จำกัด เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับ ประเภทการให้บริการรับชำระเงินด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ – การให้บริการรับชำระเงินแทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีความยึดมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ และตระหนักถึงดีว่าลูกค้าต้องการความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น บริษัทฯจึงให้ความสำคัญด้านการเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการดำเนินงานของบริษัทฯด้วยมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ลูกค้าได้มั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทฯได้รับจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการและถูกต้องตามกฎหมาย

1. การเก็บรวบรวมและนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเฉพาะกรณีที่จำเป็นหรือมีฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งรวมถึงกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญาที่ลูกค้าได้ทำไว้กับบริษัทฯ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ การดำเนินการตามความยินยอมของลูกค้า และ/หรือ ภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ โดยวัตถุประสงค์ในเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของบริษัทฯ ดังต่อไปนี้

1.1 ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ

เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และต้องดำเนินการตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

ก) เพื่อปฏิบัติตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม

ข) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และกฎหมายอื่นที่บริษัทฯต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการตรวจสอบยืนยันตัวตน การทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence) และการตรวจสอบอื่น ๆ เป็นต้น

ค) เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบและ/หรือคำสั่งของผู้มีอำนาจ เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ เป็นต้น

1.2. สัญญาที่ลูกค้าได้ทำไว้กับบริษัทฯ

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปใช้ตามคำขอ และ/หรือ ข้อตกลงที่ลูกค้าได้ทำไว้กับบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

ก) ดำเนินการตามคำขอของลูกค้าก่อนการเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ การพิจารณาอนุมัติและการให้บริการผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ การส่งมอบผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการแก่ลูกค้า การให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ

ข) ยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมใดๆ

ค) ดำเนินการตามคำสั่งของลูกค้า

ง) ให้บริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ออนไลน์อื่นๆ

จ) ติดตาม หรือบันทึกการทำธุรกรรมของลูกค้า

ฉ) จัดทำรายงานต่างๆ เช่น รายงานการทำธุรกรรมตามที่ลูกค้าร้องขอ

ช) แจ้งเตือนการทำธุรกรรม และแจ้งเตือนผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการครบกำหนด

1.3. ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

บริษัทฯ จะอ้างอิงฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่นกับสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

ก) บริหารกิจการของบริษัทฯ เช่น กำกับตรวจสอบ บริหารจัดการความเสี่ยง เฝ้าระวัง ป้องกัน และตรวจสอบการทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้าย การประพฤติโดยมิชอบ หรือการก่ออาชญากรรมอื่นๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวกับบริษัทฯ

ข) บริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับลูกค้า เช่น การบริการดูแลลูกค้า จัดการข้อร้องเรียน

ค) รักษาความปลอดภัย การติดตามข้อมูลการใช้เครือข่ายและเหตุการณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย

ง) พัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์บริการ และระบบงานต่างๆ ของบริษัทฯ เช่น การแจ้งปัญหาเมื่อระบบขัดข้อง

1.4.ความยินยอมของลูกค้า

ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีการขอความยินยอมจากลูกค้าในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด และ/หรือ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

ก) ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ซึ่งอาจมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม

ข) กรณีลูกค้าเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) (เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม)

ค) การดำเนินการอื่นที่บริษัทฯ ต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้า

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขอบเขตของผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ โดยมีทั้งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

รายละเอียดส่วนบุคคล ได้แก่ ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล นามแฝง (หากมี) วันเดือนปีเกิด

รายละเอียดการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์ ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร

รายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน ได้แก่ ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน เลขประจำตัวประชาชน ข้อมูลหนังสือเดินทาง ข้อมูลหนังสือสำคัญ บัตรประจำตัวคนต่างด้าว ใบอนุญาตขับรถ ลายมือชื่อ

รายละเอียดการทำงาน ได้แก่ อาชีพ รายละเอียดเกี่ยวกับนายจ้างและสถานที่ทำงาน ตำแหน่ง

รายละเอียดทางการเงินและข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของลูกค้ากับบริษัทฯ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่างๆ ช่องทางและวิธีการที่ลูกค้าปฏิสัมพันธ์กับบริษัทฯ ข้อมูลประวัติเกี่ยวกับธุรกรรมของลูกค้า

ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบ ได้แก่ ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริง (Due diligence) เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำความรู้จักลูกค้า (KYC) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (customer due diligence) ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบและการบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบ การฟอกเงินและต่อต้านการก่อการร้าย

ข้อมูลการเข้าใช้ และการขอใช้บริการ ได้แก่ ข้อมูลการเข้าใช้ระบบของบริษัทฯ การทำธุรกรรมทางการเงินกับบริษัทฯผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชันของบริษัทฯ

ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย ได้แก่ รูปภาพ ลักษณะรูปพรรณสัณฐานบุคคล การตรวจพบข้อสงสัยหรือกิจกรรมที่ผิดปกติ

ข้อมูลอื่นๆ ได้แก่ บันทึกการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างกับบริษัทฯ ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใดๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (social media) ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ ไม่ว่าผ่านช่องทางใดๆ

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

โดยทั่วไปแล้วบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากลูกค้าโดยตรง แต่ในบางกรณีบริษัทฯ อาจได้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ามาจากแหล่งอื่น ซึ่งบริษัทฯ จะดำเนินการให้เป็นไปตามที่ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนด ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

ข้อมูลที่บริษัทฯได้รับจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถาบันการเงิน บริษัทข้อมูลเครดิต และ/หรือ ผู้ให้บริการภายนอก เช่น ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรม

4. สิทธิตามกฎหมายของลูกค้า

พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในความควบคุมของลูกค้าได้มากขึ้น โดยลูกค้าสามารถใช้สิทธิของท่านตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ตามช่องทางที่บริษัทฯกำหนด

4.1 สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

ลูกค้ามีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทฯมีอยู่ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯมีสิทธิปฏิเสธคำขอตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

4.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

ลูกค้ามีสิทธิขอให้บริษัทฯทำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน

4.3 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

ลูกค้ามีสิทธิขอให้บริษัทฯลบหรือทำลายข้อมูล หรือทำให้ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของลูกค้าได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯจะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของลูกค้า

4.4 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

ลูกค้ามีสิทธิขอให้บริษัทฯระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณี เช่น บริษัทฯอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือลูกค้าขอให้บริษัทฯระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากลูกค้ามีความจำเป็นต้องขอให้บริษัทฯเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

4.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

ลูกค้ามีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทฯดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงหรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของลูกค้าโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น บริษัทฯสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ

4.6 สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

ลูกค้ามีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในกรณีที่บริษัทฯสามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลทีบริษัทฯได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทฯไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของลูกค้าโดยชอบด้วยกฎหมาย

4.7 สิทธิในการขอถอนความยินยอม

ลูกค้ามีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทฯเมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทฯกำหนด เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของลูกค้าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว

4.8 สิทธิในการร้องเรียน

ลูกค้ามีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทฯกระทำการอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

บริษัทฯอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าต่อบุคคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ของพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ก) บุคคลอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัท และ/หรือ ของบุคคลดังกล่าว

ข) หน่วยงานของรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถาบันการเงิน

ค) คู่ค้า ตัวแทน หรือองค์กรอื่น เช่น สมาคมวิชาชีพที่ธนาคารเป็นสมาชิก ผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ คลังเก็บเอกสาร สถาบันการเงินต่างประเทศ และสำนักหักบัญชี ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลบุคคลส่วนบุคคลของลูกค้าจะมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจง ภายใต้ฐานทางกฎหมาย และมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม

ง) ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อช่วยได้รับเงินคืนในกรณีที่มีการนำเงินเข้าบัญชีของลูกค้าผิดพลาด หรือการตรวจสอบเส้นทางการเงินในกรณีที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางการเงิน หรือในกรณีที่มีเงินที่ต้องสงสัยเข้ามายังบัญชีของลูกค้าจากอาชญากรรมทางการเงิน

จ) หน่วยงานป้องกันการทุจริต ศาล ทนายความ หน่วยงาน หรือบุคคลใดๆ ที่บริษัทฯถูกกำหนดหรือได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย กฎระเบียบ หรือคำสั่ง

ฉ) ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่านที่มีอำนาจตามกฎหมายโดยชอบ

6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปยังต่างประเทศ

เนื่องจากกิจการบริษัทฯมีพันธมิตรธุรกิจในต่างประเทศ ในบางครั้งบริษัทฯจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปยังต่างประเทศ ในกรณีนี้บริษัทฯจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปยังพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ หรือผู้รับข้อมูลของบริษัทฯที่มีความน่าเชื่อถือด้วยวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ซึ่งรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้

ก) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

ข) ได้แจ้งให้ลูกค้าทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางและไ ด้รับความยินยอมจากลูกค้า

ค) ปฏิบัติตามสัญญาที่ลูกค้าทำไว้กับบริษัทฯ หรือตามคำขอของลูกค้าก่อนการเข้าทำสัญญา

ง) ปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของลูกค้า

จ) ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของลูกค้าหรือของบุคคลอื่น เมื่อลูกค้าไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้ หรือ

ฉ) ดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในระหว่างที่เป็นลูกค้าของบริษัทฯ และเมื่อสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัทฯ บริษัทฯจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทและวัตถุประสงค์ตามที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด เช่น กฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุ ภาพทำลายล้างสูง กฎหมายการบัญชี กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน และกฎหมายอื่นที่บริษัทฯต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯอาจจะจำเป็นต้องเก็บบันทึกข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สำนักงาน และ/หรือ การบันทึกเสียงการให้บริการผ่าน Call Center เพื่อป้องกันเหตุทุจริตและการรักษาความปลอดภัย รวมถึงตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยที่ลูกค้าหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอาจแจ้งมายังบริษัทฯ

8. การใช้คุกกี้

บริษัทฯอาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทฯ รวมถึงการใช้เว็บไซต์ การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชันของบริษัทฯ

9. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม

บริษัทฯมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทฯได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากลูกค้าไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทฯเก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ลูกค้าสามารถแจ้งบริษัทฯเพื่อขอถอนความยินยอมของลูกค้าเมื่อใดก็ได้

10. การรักษาความปลอดภัย

บริษัทฯมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัทฯและการใช้บังคับนโยบายอย่างเข้มงวดในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสข้อมูล และมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูล โดยบริษัทฯกำหนดให้บุคลากรของบริษัทฯและผู้รับจ้างภายนอกจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายความเป็นส่วนบุคคลที่เหมาะสม รวมถึงจะต้องจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูลและมีมาตรการที่เหมาะสมในการใช้หรือการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

11. วิธีการติดต่อบริษัทฯ

หากลูกค้ามีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ หรือต้องการขอใช้สิทธิของลูกค้า สามารถติดต่อบริษัทฯผ่านช่องทาง Line official account : @nextpost หรือ Line ID : nextpostsupport หรือ Facebook : nextpost หรือ IG : nextpostqr หรือ Call Center โทร 02-375-1774-5 นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยติดต่ออีเมล support@nextpos.asia หรือติดต่อสำนักงานของบริษัทฯ เลขที่ 2 / 1-2 ซอยลาดพร้าว 113 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240

Wave Image